วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

หลวงปู่สรวง"เรื่องเล่าเท่าที่รู้ 4"


                                                         วันละสังขาร ตอน 3 ตอนจบ

เหตุการณ์ในวันที่ 8 กันยายน 2543  ขึ้น  10 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง
      เหตุการณ์บนรถในขณะที่กำลังเลี้ยวรถเพื่อจะขับผ่านทุ่งหญ้าออกไปนั้นได้มีอาการบางอย่างที่เป็นสัญญาณแสดงว่าหลวงปู่จะมรณภาพแน่นอนให้คนที่อยู่บนรถเห็น  ต่างคนก็ร่ำไห้มองดูด้วยความอาลัยและสิ้นหวัง  หลวงปู่เริ่มหายใจแผ่วลง ในที่สุดได้ทอดมือทิ้งลงข้างกายแล้วก็จากไปด้วยความสงบอย่างไรก็ตาม ลูกศิษย์ก็ยังคงนำหลวงปู่มุ่งไปที่โรงพยาบาลด้วยความหวังว่าหมอจะสามารถช่วยให้หลวงปู่ฟื้นขึ้นมาได้ ระหว่างไปโรงพยาบาลนั้น นายสาด ชาวบ้านตาปิ่น อำเภอบัวเชด ก็ขับรถจักรยานยนต์สวนทางมา นายจุกชะลอรถแล้วตะโกนบอกให้นายสาดตามไปที่โรงพยาบาลบัวเชดด่วน  โดยบอกว่าอาการหลวงปู่นั้นแย่มาก  ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่  พอไปถึงโรงพยาบาลแพทย์และนางพยาบาลได้รีบนำหลวงปู่เข้าห้องฉุกเฉิน ทำการตรวจดดยละเอียดแล้วสรุปว่าหลวงปู่สิ้นลมไปแล้วไม่ต่ำว่า 3-4 ชั่วโมง  แต่ลูกศิษย์ต่างก็ยืนยันว่าสิ้นลมไม่เกิน 10 นาทีแน่นอน เพราะระยะทางจากบ้านรุนมาดรงพยาบาลบัวเชดประมาณ 10 กิโลเมตร  และก็ได้ขับรถมาอย่างเร็วด้วย ลูกศิษย์ไม่ให้ทางโรงพยาบาลฉีดยา หรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับร่างกายของหลวงปู่ทั้งสิ้นเมื่อเห็นว่าไม่สามารถจะช่วยหลวงปู่ได้แน่นอนแล้วก็พากันนำร่างหลวงปู่กลับ

     พอมาถึงบ้านตาปิ่นก็ได้แวะจอดเอาจีวรเก่าของหลวงปู่ที่เคยให้นายสาดไว้  เพื่อนำมาครองให้หลวงปู่ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย  นายสาดก็ได้นำขึ้นรถมาด้วย  พอถึงบ้านรุนนายชัยและนายน้อยได้จอดรถรออยู่แล้วก็ได้แจ้งว่าหลวงปู่มรณภาพแล้ว  ต่างคนต่างก็รีบขับรถออกมาโดยมุ่งหน้าไปทางบ้านละลม พอมาถึงบ้านไพรพัฒนา นายจุกได้ขับรถแวะเข้าที่วัดไพรพัฒนาเพื่อแจ้งข่าวให้หลวงพ่อพุฒ วายาโม เจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนาได้ทราบว่าหลวงปู่ได้มรณภาพแล้ว ขณะนั้นเวลาประมาณ 19.00น.  หลวงพอ่พุฒกำลังนั่งสนทนากับพระลูกวัดอยู่ก็มีรถ  4 คันวิ่งมาจอด มีนายสาด ตาปิ่น ซึ่งเป็นคนที่รู้จักขึ้นมาบนกุฏิแล้วบอกหลวงพ่อพุฒว่า  หลวงปู่สรวงมรณะภาพแล้ว  หลวงพ่อพุฒอึ้งอยู่ขณะหนึ่งแล้วถามว่า มรณภาพที่ไหน นายสาดตอบว่า มรณภาพที่โรงพยาบาลและได้นำร่างของท่านมาพร้อมกับรถนี้แล้ว  หลวงพ่อพุฒจึงลงไปที่รถแล้วเปิดประตูกราบลงบนตักหลวงปู่  แล้วเอามือจับตามร่างกาย  และถามบรรดาลูกศิษย์ว่าจะดำเนินการกันต่อไปอย่างไร  ก็ได้รับคำตอบว่า  จะนำศพหลวงปู่ไปบำเพ็ญที่วัดบ้านขยุง  หลวงพ่อพุฒบอกให้เดินทางล่วงหน้าไปก่อนจะตามไปทันที  รถทั้งสี่คันเคลื่อนตัวออกจากวัดไพรมุ่งหน้าไปยังบ้านขยุง หลวงพ่อพุฒที่ได้เดินทางตามมาได้อธษฐานว่า สาธุ ถ้าหากหลวงปู่มีความประสงค์จะให้ลูกหลานได้เป็นผู้บำเพ็ญกุศล ก็ขอให้หลวงปู่ได้กลับมายังวัดด้วยเถิด “  พอถึงหน้าวัดป่าบ้านโคกชาติ มีรถหลายคันจอดอยู่ ปรากฏว่าขบวนที่นำร่างหลวงปู่มาบอกว่าจะนำร่างหลวงปู่กลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดไพรพัฒนาหลังจากที่เดินทางกลับมาถึงวัดไพรพัฒนาแล้ว  หลวงพ่อได้อัญเชิญร่างของหลวงปู่มาไว้ที่ศาลลาพร้อมกับจุดธูปอธิฐานว่า “หากเป็นความประสงค์ของหลวงปู่ที่จะให้ลูกหลานได้บำเพ็ญกุศลในที่นี่จริง ก็ขอให้ดำเนินการไปโดยเรียบร้อย และก็ขอให้มีลูกศิษย์ของหลวงปู่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญกุศลโดยทั่วกันด้วย”

   ต่อจากนั้นก็ได้ดำเนินการบำเพ็ญกถศลให้กับหลวงปู่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดว่าด้วยเหตุใดสรีระของหลวงปู่สรวงจึงได้มาตั้งบำเพ็ยกุศลอยู่ที่วัดไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
เรื่องจากหนังสือ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูญ บำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน
ผงโคลนพอกหน้าจากแร่ทองคำธรรมชาติ

ตรีผลา รักษาริดสีดวงทวารได้ผล 100%www.tripala.weebly.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น