วันละสังขารตอน 2
เหตุการณ์ในวันที่ 8 กันยายน 2543 ขึ้น 10
ค่ำ
เดือน 10 ปีมะโรง
ด้านนางเล็กได้จัดหาอาหารและอาหารแห้งมาให้นายสุขส่วนตัวเองกับสามีก็รีบขับรถตามมาทีหลัง
พอมาถึงกระท่อมปรากฏว่าไม่มีรถของนายชัยจอดอยู่ พวกที่อยู่ช่วยกันประกอบอาหารอย่างรีบเร่งเพื่อจะให้หลวงปู่ได้ฉัน
โดยหวังว่าหากหลวงปู่ฉันแล้วก็คงจะทำให้หลวงปู่มีอาการดีขึ้นบ้าง แต่หลวงปู่ไม่ยอมฉันเลย แม้จะพากันอ้อนวอนอย่างไรก็นิ่งเฉย
นายชัยที่ออกไปทำธุระข้างนอกได้กลับมาโดยขับรถตามนายน้อยที่นำของมาถวายหลวงปู่เหมือนเดิม เมื่อไม่สามารถที่จะทำให้หลวงปู่ฉันได้
ทุกคนก็พิจารณาหาวิธีการว่าจะช่วยหลวงปู่ได้อย่างไร
ในที่สุดก็มีความเห็นว่าให้รีบแต่งขันธ์ห้าขันธ์แปด (ดอกไม้ธูปเทียน)
ขอขมาหลวงปู่โดยด่วนตามที่เคยกระทำมาแล้วและได้ผลมาหลายครั้ง หลวงปู่หายจากการป่วยทุกครั้งไป โดยการยืนยันของนายชัยว่าถ้าได้แต่งขันธ์ห้าขันธ์แปดขอขมาพร้อมนิมนต์แม่ชีมาร่วมสวดมนต์ให้ท่านฟังด้วยแล้วท่านก็จะหายเป็นปกติ ทุกคนเห็นชอบด้วย จึงได้ให้นายชัยรีบไปดำเนินการโดยด่วน
นายชัยขับรถออกไปที่บ้านขยุง
เพื่อไปหาคนที่เคยแต่งขันธ์ห้าขันธ์แปด
เมื่อนายชัยออกไปแล้วลูกศิษย์ที่อยู่ที่นั่น ซึ่งประกอบด้วยผู้ใหญ่บ้าน บ้านรุน
และลูกบ้านอีกหลายคน รวมทั้งเจ้าของกระท่อมนาที่หลวงปู่พักอยู่ด้วยได้ช่วยกันแต่งขันธ์ห้าขันแปดเฉพาะหน้าไปก่อน
เพื่อเป็นการบรรเทาจนกว่านายชัยจะตามคนแต่งมาแต่งให้อีกทีหนึ่ง
โดยตัวนายน้อยเองได้อาสาไปหาธูปเทียนจากข้างนอก นายน้อยได้ขับรถไปประมาณ 300 เมตร
ก็ไปติดหล่มไม่สามารถขับออกไปได้ ทั้ง ๆ
ที่เป็นทางที่ขับเข้าออกเป็นประจำไปมาได้สะดวกตลอดเวลา
และด้วยความร้อนใจอยากจะได้ธูปเทียนมาโดยเร็ว นายน้อยได้จัดการล็อครถแล้วอุ้มลูกเดินออกไป
ช่วงนั้นเองนายชัยก็ได้ขับรถเข้ามาแต่ก็ผ่านเข้ามาไม่ได้
เนื่องจากรุของนายน้อยจดอติดหล่มขวางไว้จึงได้กลับรถแล้วเอาไปจอดไว้ที่บ้านนายน้อย
ระหว่างที่กำลังคอยนายน้อยออกไปซื้อธูปเทียนนั้น บรรดาชาวบ้าน บ้านรุน
รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านก็ได้ทยอยกันลากลับที่ละคนสองคน
มีชาวบ้านรุนซึ่งเป็นผู้หญิงพูดออกความเห็นว่าถ้าจะให้ดีแล้วควรนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลน่าจะเป็นการดีที่สุด แต่ก้กลับบ้าปนไปจนหมดไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาเหล่านั้นจะอยู่กับหลวงปู่ตลอดเวลา
ไม่ยอมกลับกันง่าย ๆ จะกลับไปก็ต่อเมื่อหลวงปู่ได้ไปที่อื่นแล้วเท่านั้น มีลูกศิษย์ที่อยู่กับหลวงปู่ในกระท่อมแค่ 8
คนเท่านั้น
รวมทั้งเด็กที่เป็นลูกของนายจุกนางเล็กด้วย
ทุกคนก็ต่างหาวิธีการที่จะช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของหลวงปู่ ซึ่งขณะนั้นเมื่อจับดูตามร่างกายของหลวงปู่จะเย็นจัดตลอดเวลา บางคนได้เอาหมอนไปอังไฟให้ร้อนแล้วนามมาประคบตามร่างกายของหลวงปู่ เอาผ้าชุบน้ำเช็ดนิ้งมือนิ้งเท้าหลวงปู่ ทำความสะอาดและเช็ดทั้งร่างกาย โดยย้ำว่าให้ทำความสะอาดที่สุด
บางจุดที่เท้าของหลวงปู่ที่ลูกศิษย์เช็ดให้ไม่สะอาดพอ หลวงปู่ก็จะชี้นิ้วเกาถูออกอย่างแรงจนสะอาด เมื่อทำความสะอาดร่างกายดีพอสมควรแล้ว หลวงปู่ได้เอ่ยออกเสียงแผ่วเบามาเป็นภาษาเขมร
เนียงนาลาน” (นาง ไหนล่ะรถ) ซึ่งเสียงที่เปล่งออกมานั้นแผ่วเบามาก ทุกคนเข้าใจว่าเนียงนั้นหมายถึงนางเล็ก
จึงได้พากันอุ้มหลวงปู่ไปขึ้นรถของนายจุกนางเล็ก
ผู้ที่อุ้มมีนายจุกและนายตี๋ นายสุขเป็นผู้เปิดประตูรถให้
พอนำหลวงปู่ขึ้นนั่งบนรถลูกศิษย์ได้ปรับเบาะเอนลง เพื่อจะได้ให้หลวงปู่ได้เอนกายสบายขึ้น ท่านได้พยายามยื่นมือมาดึงประตูรถปิดเอง ลูกศิษย์ก็ได้ช่วยปิดให้ รถเคลื่อนออกจากกระท่อมเพื่อจะไปโรงพยาบาลบัวเชด ซึ่งใกล้ที่สุดแต่ไปได้ไม่ถึง 50 เมตร
อาการของหลวงปู่ก็เริ่มหนักขึ้นทุกที จนลูศิษย์ที่นั่งอยู่ด้วยด้านหลังตกใจ และร้องขึ้นว่า “หลวงปู่อาการหนักมากแล้ว”
จึงจอดรถผู้ที่นั่งอยู่รถคันหลังก็วิ่งเข้ามาดูแล้วก็บอกว่า อย่างไรก็ต้องนำหลวงปู่ไปส่งให้ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ รถจึงออกอีกครั้ง แต่ไม่สามารถจะไปได้
เพราะรถของนายน้อยติดหล่มขวางทางอยู่
นายจุกได้ร้องตะโกนบอกให้นายจันวิ่งไปสำรวจดูเส้นทางอื่นว่าจะนำรถออกไปทางไหนได้อีก
เมื่อดูโดยทั่วแล้วก็เห็นว่าทางออกอีกเพียงทางเดียว
ก็คือขับฝ่าทุ่งหญ้าออกไปหาถนน
เมื่อดูสภาพทางแล้วก็ไม่น่าจออกไปได้
แต่ก็ตัดสินใจขับออกไปและก็สามารถขับผ่านไปได้
เรื่องจากหนังสือ หลวงปู่สรวง ออยเตียนสรูญ บำเพ็ญกุศลครบ 100 วัน
โปรดติดตาม วันละสังขารตอน 3 ตอนจบ
ผงโคลนพอกหน้าจากแร่ทองคำธรรมชาติ |
ตรีผลา รักษาริดสีดวงทวารหาย 100%www.tripala.weebly.com |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น